วันธรรมดาวันหนึ่งที่ไม่ได้สอนมีเรื่องราวเกิดขึ้นตั้งมากมายเหลือเกิน ซึ่งบางอย่างผมไม่อาจจะเล่าได้ ถ้าใครอยากทราบข้อมูลเชิงลึกก็ทักมาถามผมได้ (พูดง่ายๆคือเสือกนั้นเอง)
เนื่องจากผมอยากทำธนาคารขยะ แบบที่นักเรียนเอาขยะมาแลกของได้มากๆ เพราะเคยได้ยินว่าในอินเดียหมอช่วยเหลือคนจนที่ไม่มีค่ารักษาพยาบาลด้วยการรับขยะแทนเงิน แต่ด้วยข้อจำกัดต่างๆที่มีเรื่องของเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อที่จะทำให้เป้าหมายเป็นจริงได้ผมเลยคิดว่าจะค่อยๆก้าวไปทีละขั้น เริ่มจากการให้โรงเรียนแยกขยะอย่างจริงจัง
ทุกวันนี้ห้องอาหารของครูเองยังคงเทเศษอาหาร รวมกับขยะพลาสติก กระดาษ ฯลฯ ซึ่งเศษอาหารเหล่านี้สามารถเอาไปเลี้ยงสัตว์ หมักเอาก๊าซชีวภาพ เศษผักไปเลี้ยงไส้เดือนได้ แต่จะให้ทั้งโรงเรียนเริ่ม ผมก็เริ่มจากตัวเองก่อน เริ่มแยกขยะในห้องวิทยาศาสตร์(ห้องทำงานของผม)ให้เป็นระบบมากขึ้น ซึ่งผมอยากทำให้ได้เหมือนกับระบบของญี่ปุ่นแยกขยะ เพื่อไปขายต่อได้ ตอนนี้แยกได้ 4 ประเภท
- กระดาษใช้แล้ว
- กระดาษ Reuse
- ขวดน้ำทุกประเภท
- ขยะทั่วไป
ผมก็เอากล่องขนมจากร้านสหกรณ์โรงเรียนมาใช้จัดประเภท ใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
จึงใช้เวลานี้ศึกษาโรงเรียนไปด้วยภายในตัว ตามหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ให้เราศึกษาให้รู้แจ้งเห็นจริงก่อน ว่าในพื้นที่ที่จะเข้าไปทำการพัฒนานั้นแต่เดิมมีสิ่งใดอยู่บ้าง
ผมว่าสวนเกษตรหรือพื้นที่เรียนรู้ของโรงเรียนนี้สวยงามมาก มีพืชหลายชนิดที่มีประโยชน์ทั้งบริโภค หรือใช้เป็นยารักษาต่างๆ มีสวนผีเสื้อครั้งหนึ่งซึ่ง นักเรียนเล่าให้ผมฟังเหมือนกับว่าที่แห่งนี้สวยงามมาก ผมดูๆ โดยรอบว่าจะมีพืชใดบ้างที่จะใช้สอนควบคู่กับคณิตศาสตร์ได้เหมือนอัญชัน ที่ผมใช้สอนเรื่องเศษส่วนได้บ้าง
ผลสีส้มนั้นคือลูกฟักข้าว ซึ่งเป็นสิ่งที่ครูที่ปลูกภาคภูมิใจมาก มีผักสดที่นักเรียนปลูกเองรอวันเวลาที่จะเก็บเกี่ยวอยู่
เดินออกไปด้านหลังโรงอาหารเจอที่หมักก๊าซชีวภาพของโรงเรียน ใหญ่อยู่พอสมควร แต่ยังไม่ได้ถามรายละเอียดจากผู้รู้ว่า เขาใช้กันยังไง ผลิตก๊าซชีวภาพได้มากน้อยเพียงใด การกำจัดของเสียหลังจากหมักแล้วไปอยู่ที่ไหน
แต่ก็ทำให้เราได้เห็นสิ่งดีๆ ที่โรงเรียนแห่งนี้ได้ก่อร่างสร้างขึ้นมาก่อนที่ผมจะก้าวมาสู่ที่แห่งนี้
หากเดินต่อออกไปไม่ไกลก็จะเจอฟาร์มเห็ด ซึ่งผมว่าเห็ดที่กินในแกงทุกวันก็น่าจะมาจากที่นี้ด้วยหละส่วนหนึ่ง ถ้าไม่มาดูก็ไม่รู้ว่ามีนะเนี่ย นักเรียนที่อยู่มานานแล้วก็พึ่งรู้เช่นกันว่าโรงเรียนเราก็มีอย่างงี้ด้วย
ฟาร์มเห็ดมีอยู่สองอาคาร ซึ่งอีกห้องดัดแปลงมาจากห้องเก็บของและกำลังจะเลิกใช้ห้องนี้ในการเพาะเห็นแล้ว
ซึ่งผมก็เลงไว้ว่าจะใช้เป็นที่เลี้ยงไส้เดือนแทน เพราะไส้เดือนต้องการที่รักษาอุณหภูมิและความชื้นไม่ต่างอะไรกับการปลูกเห็ด
ข้างๆบ่อน้ำมีเป็ดตัวสุดท้ายของโรงเรียนยืนแน่นิ่งอยู่ ไม่ไกลจากตรงนี้มีพื้นที่ที่สันนิษฐาน ว่าเป็นที่เฉือดเป็ดไปกิน - -*
พูดถึงกิจกรรมแล้ว เป็นเรื่องที่ดีที่จะให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมของวันสำคัญต่างๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือนักเรียนไม่ได้มีส่วนร่วม จะคิดว่าพวกเขาจะไม่มาโรงเรียน หรือไม่ก็มาแต่ไม่เข้าร่วมกิจกรรม
ปัญหาที่ตามมาก็คือพวกเขาไปใช้เวลาทำอย่างอื่น ซึ่งบางอย่างก็ซุ่มเสี่ยงกับตัวพวกเขาเอง การที่นักเรียนอยู่ในห้องเรียนนั้น ผมถือเป็นการลดปัญหาทางสังคม ด้วยเช่นกัน ไม่ใช่เพราะแค่นักเรียนได้ความรู้ แต่พวกเขาจะไม่เอาเวลาว่างไปทำอะไรที่ไม่ดีด้วยเช่นกัน
วันนี้มีเรื่องให้ตกใจ เสียใจ สงสารด้วยเช่นกันแต่ผมขอไม่เล่าในที่นี้ เพราะอาจจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี แต่เหตุการณ์ในวันนี้ทำให้ผมหยุดคิดแล้วว่า เราจะต้องสอนให้นักเรียนเป็นคนดีในแบบที่ควรจะเป็นอย่างจริงจัง ไม่ใช่คนดีในแบบที่พวกเขาคิด ให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องแรก ส่วนการส่งงานและการลอกงานกลายเป็นปัญหาสำคัญแต่ไม่เร่งด่วนไปในทันที
สุดท้ายผมให้นักเรียนมนุษย์กล่องขนมมาบอกลาฟันดี ผมว่าเขาต้องเป็นดาราตลกที่ดังสู้โก๊ะตี๋ได้แน่ๆ
สวัสดีวันพ่อขอให้ทุกคนจงใช้ชิวิตอย่างมีสติ บุญรักษา :)
No comments:
Post a Comment